UPS ทำหน้าที่อะไร ติดตั้งก่อนข้อมูลหายเมื่อไฟดับ

 

UPS ทำหน้าที่อะไร ทำไมควรติดตั้งก่อนข้อมูลหายเมื่อไฟดับ ในยุคที่เทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันของเรา การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ ในบ้านและสำนักงานเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การป้องกันปัญหาจากเหตุการณ์ไฟฟ้าดับกะทันหัน จึงเป็นเรื่องสำคัญ และนั่นทำให้ "เครื่องสำรองไฟ" หรือ UPS จึงกลายเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่หลายคนสนใจและให้ความสำคัญกันมากขึ้น บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงความสำคัญของการใช้ UPS และวิธีการเลือกใช้ UPS ให้เหมาะสมกับความต้องการของคุณ

ระบบสำรองไฟ (UPS) คืออะไร

ระบบสำรองไฟ (UPS) หรือที่เรียกว่า UPS (Uninterruptible Power Supply) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อป้องกันการสูญเสียข้อมูลและความเสียหายของอุปกรณ์ไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าดับกะทันหัน UPS มีความสามารถในการสำรองไฟฟ้าให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่ออยู่กับเครื่องสำรองไฟในระยะเวลาสั้น ๆ เพียงพอให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกงาน และปิดอุปกรณ์อย่างปลอดภัยหรือทำงานต่อเนื่องได้ชั่วคราว

UPS ประกอบด้วยแบตเตอรี่ภายในที่ชาร์จไฟจากแหล่งจ่ายไฟหลัก เมื่อเกิดไฟฟ้าดับ UPS จะทำหน้าที่จ่ายไฟจากแบตเตอรี่ให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อ โดยในบางรุ่นยังมีฟังก์ชันที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพของไฟฟ้าที่จ่ายให้กับอุปกรณ์อีกด้วย

UPS ทำหน้าที่อะไร

UPS ทำหน้าที่อะไร? หลายคนอาจสงสัยเกี่ยวกับบทบาทของ UPS ในการปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้าและข้อมูลที่สำคัญ UPS (Uninterruptible Power Supply) มีหน้าที่สำคัญหลายประการที่ช่วยให้การทำงานของอุปกรณ์ไฟฟ้าดำเนินไปอย่างราบรื่นแม้ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับหรือปัญหาด้านคุณภาพของไฟฟ้า:

1. ป้องกันการขาดไฟฟ้ากะทันหัน: หน้าที่หลักของ UPS คือการจ่ายไฟสำรองให้กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับกะทันหัน ทำให้อุปกรณ์ยังคงทำงานต่อเนื่องได้ในระยะเวลาสั้นๆ โดยไม่เกิดความเสียหายหรือการสูญเสียข้อมูล

2. ป้องกันความเสียหายของอุปกรณ์: การขาดไฟฟ้ากะทันหันสามารถทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหายหรือข้อมูลสูญหาย UPS ช่วยป้องกันปัญหานี้โดยให้เวลาผู้ใช้งานปิดอุปกรณ์อย่างปลอดภัยและบันทึกข้อมูลสำคัญได้ทัน

3. ปรับปรุงคุณภาพของไฟฟ้า: UPS บางรุ่นมีฟังก์ชันการกรองและปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ ซึ่งช่วยป้องกันปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้ากระชาก (power surge) หรือไฟฟ้าตก (brownout) ที่อาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย

4. รักษาการทำงานต่อเนื่อง: ในกรณีที่อุปกรณ์ไฟฟ้าจำเป็นต้องทำงานต่อเนื่อง เช่น ระบบเครือข่าย เซิร์ฟเวอร์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ UPS ช่วยให้การทำงานไม่สะดุดแม้ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ

5. ป้องกันปัญหาจากไฟฟ้ากระชาก: UPS ช่วยกรองกระแสไฟฟ้าและปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ ลดความเสี่ยงที่อุปกรณ์จะเสียหายจากปัญหาไฟฟ้ากระชากหรือการเปลี่ยนแปลงของแรงดันไฟฟ้า

6. แจ้งเตือนและการจัดการ: UPS รุ่นใหม่มักมาพร้อมกับฟังก์ชันการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำหรือเมื่อเกิดปัญหากับแหล่งจ่ายไฟฟ้า ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับทราบและจัดการกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที

การทำงานของ UPS ช่วยให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่าอุปกรณ์และข้อมูลสำคัญจะได้รับการปกป้องจากปัญหาที่เกิดจากไฟฟ้าดับกะทันหันและไฟฟ้ากระชาก ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไม UPS ถึงมีบทบาทสำคัญในระบบการจัดการพลังงานในปัจจุบัน

ประโยชน์ของ เครื่องสำรองไฟ มีอะไรบ้าง

การใช้งาน เครื่องสำรองไฟ หรือ UPS มีประโยชน์หลากหลายที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้า และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากไฟฟ้าดับหรือความไม่เสถียรของกระแสไฟฟ้า ดังนี้:

1. ปกป้องข้อมูลสำคัญ: ในกรณีที่เกิดไฟฟ้าดับกะทันหัน UPS ช่วยให้ผู้ใช้งานมีเวลาเพียงพอในการบันทึกข้อมูล และปิดอุปกรณ์อย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูลสำคัญ

2. ป้องกันอุปกรณ์เสียหาย: การขาดไฟฟ้ากะทันหันสามารถทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย เช่น คอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ หรืออุปกรณ์เครือข่าย UPS ช่วยป้องกันความเสี่ยงนี้โดยการจ่ายไฟสำรองให้กับอุปกรณ์

3. รักษาการทำงานต่อเนื่อง: สำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความต่อเนื่องของไฟฟ้า เช่น เซิร์ฟเวอร์ ระบบเครือข่าย หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ UPS ช่วยให้การทำงานไม่สะดุด แม้ในกรณีที่ไฟฟ้าดับ

4. ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ากระชาก: UPS มีฟังก์ชันในการกรองกระแสไฟฟ้าและปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ ช่วยป้องกันอุปกรณ์จากปัญหาไฟฟ้ากระชากหรือไฟฟ้าตกที่อาจทำให้อุปกรณ์เสียหาย

5. เสริมความเสถียรของระบบไฟฟ้า: ในบางสถานการณ์ เช่น การใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ที่มีปัญหากับความเสถียรของไฟฟ้า UPS ช่วยปรับปรุงคุณภาพของไฟฟ้าที่จ่ายให้กับอุปกรณ์ ทำให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

6. แจ้งเตือนและการจัดการ: UPS รุ่นใหม่มักมาพร้อมกับฟังก์ชันการแจ้งเตือนเมื่อแบตเตอรี่ต่ำหรือเมื่อเกิดปัญหากับแหล่งจ่ายไฟฟ้า ทำให้ผู้ใช้งานสามารถรับทราบและจัดการกับสถานการณ์ได้ทันท่วงที

7. เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน: การใช้ UPS ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดไฟฟ้าดับกะทันหันที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน

8. ประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว: UPS ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ที่เสียหายจากปัญหาด้านไฟฟ้า

เครื่องสำรองไฟ ไม่พลาดทุกสถานการณ์เมื่อไฟฟ้าดับ

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าการที่ไฟฟ้าดับกะทันหันอาจสร้างปัญหาใหญ่ให้องค์กรได้ ทั้งในด้านการสูญเสียข้อมูล การหยุดชะงักของการทำงาน หรือแม้แต่ความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า แต่การใช้ เครื่องสำรองไฟ (UPS) สามารถช่วยป้องกันและลดความเสี่ยงเหล่านี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ UPS ไม่เพียงแค่ช่วยสำรองไฟฟ้าในกรณีที่ไฟฟ้าดับเท่านั้น แต่ยังมีคุณสมบัติและประโยชน์อื่น ๆ ที่ทำให้การทำงานของคุณไม่สะดุด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในสถานการณ์ใด

อาคารสำนักงาน ควรใช้ UPS แบบไหน

การเลือกใช้ UPS ที่เหมาะสมสำหรับสำนักงานหรืออาคารเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์และระบบทั้งหมดได้รับการป้องกันจากปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากไฟฟ้าดับหรือความไม่เสถียรของกระแสไฟฟ้า การเลือก UPS ที่เหมาะสมสามารถแบ่งออกเป็นหลายประเภทตามลักษณะการใช้งานและความต้องการของสำนักงานหรืออาคาร ดังนี้:

1. Standby UPS (Offline UPS)

Standby UPS หรือ Offline UPS เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่มีความต้องการการป้องกันพื้นฐาน เช่น คอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรืออุปกรณ์ขนาดเล็กในสำนักงานขนาดเล็กหรือบ้าน UPS ชนิดนี้มีการสำรองไฟฟ้าเพียงไม่กี่นาทีเพื่อให้ผู้ใช้งานมีเวลาบันทึกข้อมูลและปิดอุปกรณ์อย่างปลอดภัย

2. Line-Interactive UPS

Line-Interactive UPS เป็นประเภทที่เหมาะสำหรับสำนักงานขนาดกลางที่ต้องการการป้องกันที่มากขึ้น มีการกรองและปรับแรงดันไฟฟ้า ทำให้ไฟฟ้าที่จ่ายให้กับอุปกรณ์มีความเสถียรยิ่งขึ้น UPS ชนิดนี้เหมาะสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการความเสถียรของไฟฟ้า เช่น เซิร์ฟเวอร์ขนาดเล็ก หรืออุปกรณ์เครือข่าย

3. Online UPS (Double Conversion UPS)

Online UPS หรือ Double Conversion UPS เป็นประเภทที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในด้านการป้องกันและการสำรองไฟฟ้า มีการจ่ายไฟจากแบตเตอรี่ตลอดเวลา ทำให้มั่นใจได้ว่าไฟฟ้าที่จ่ายให้กับอุปกรณ์มีความเสถียรและไม่มีการสะดุด เหมาะสำหรับศูนย์ข้อมูล (Data Center) อุปกรณ์การแพทย์ หรืออุปกรณ์ที่ต้องการการสำรองไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องและไม่มีความผิดพลาด

วิธีการเลือกระบบสำรองไฟ สำหรับอาคารสำนักงาน

การเลือกระบบสำรองไฟ (UPS) สำหรับอาคารสำนักงานนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากระบบ UPS ที่เหมาะสมสามารถช่วยปกป้องอุปกรณ์ไฟฟ้า ลดความเสี่ยงในการสูญเสียข้อมูล และเพิ่มความเสถียรในการทำงานของระบบต่างๆ ในอาคารสำนักงาน เพื่อให้สามารถเลือก UPS ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ดังต่อไปนี้:

1. กำลังไฟฟ้า (Wattage)

การเลือก UPS ที่มีกำลังไฟฟ้าเพียงพอสำหรับอุปกรณ์ที่ต้องการสำรองไฟเป็นสิ่งสำคัญ ควรคำนวณกำลังไฟฟ้าที่อุปกรณ์ทุกตัวต้องการ และเพิ่มเผื่อไว้เล็กน้อยเพื่อให้แน่ใจว่า UPS สามารถรองรับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ โดยทั่วไปควรเลือก UPS ที่มีกำลังไฟฟ้าสูงกว่าความต้องการของอุปกรณ์ประมาณ 20-30%

2. ระยะเวลาสำรองไฟ (Runtime)

ควรเลือก UPS ที่สามารถสำรองไฟฟ้าได้ในระยะเวลาที่เพียงพอให้ผู้ใช้งานสามารถบันทึกข้อมูลและปิดอุปกรณ์อย่างปลอดภัย ระยะเวลาสำรองไฟที่เหมาะสมจะขึ้นอยู่กับความต้องการและการใช้งานของอุปกรณ์ในสำนักงาน โดยทั่วไปแล้ว UPS ควรมีระยะเวลาสำรองไฟอย่างน้อย 5-10 นาที สำหรับการใช้งานพื้นฐาน

3. คุณภาพของไฟฟ้า (Power Quality)

ควรเลือก UPS ที่มีการปรับปรุงคุณภาพของไฟฟ้า เช่น การกรองกระแสไฟฟ้าและการปรับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ เพื่อลดความเสี่ยงจากไฟฟ้ากระชาก (power surge) หรือไฟฟ้าตก (brownout) UPS ที่มีฟังก์ชันการปรับปรุงคุณภาพของไฟฟ้าจะช่วยให้อุปกรณ์ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

4. การขยายตัว (Scalability)

สำหรับสำนักงานหรืออาคารที่มีการขยายตัวในอนาคต ควรเลือก UPS ที่สามารถเพิ่มหรือลดโมดูลการทำงานได้ตามความต้องการ เช่น Modular UPS ที่สามารถเพิ่มโมดูลการทำงานได้ง่ายเพื่อรองรับการขยายตัวของระบบ

5. การบำรุงรักษา (Maintenance)

ควรเลือก UPS ที่มีการบำรุงรักษาง่ายและมีการแจ้งเตือนเมื่อเกิดปัญหา UPS ที่มีฟังก์ชันการแจ้งเตือนจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถตรวจสอบสถานะและการทำงานของ UPS ได้อย่างง่ายดาย ทำให้สามารถจัดการกับปัญหาได้ทันท่วงที

6. ความน่าเชื่อถือของผู้ผลิตและบริการหลังการขาย

ควรเลือก UPS จากผู้ผลิตที่มีความน่าเชื่อถือและมีบริการหลังการขายที่ดี ผู้ผลิตที่มีชื่อเสียงมักจะมีการรับประกันและบริการหลังการขายที่ครอบคลุม ทำให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดปัญหาขึ้น จะมีการสนับสนุนและการแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว

UPS Power Supply จาก จาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้เชี่ยวชาญระดับโลกด้านการบริหารจัดการพลังงาน

หากกำลังเลือกซื้อ UPS Power Supply แนะนำ ชไนเดอร์ อิเล็คทริค เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยม ด้วยประวัติศาสตร์ที่ยาวนานในด้านการบริหารจัดการพลังงาน และเป็นผู้ผลิต UPS ที่ได้รับการยอมรับในระดับโลก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค มีหลายรุ่นของ UPS ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นสำหรับใช้ในบ้าน องค์กร หรือภาคอุตสาหกรรม รวมถึงมีระบบจัดการพลังงานที่ทันสมัย การเลือกซื้อ UPS จาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณได้รับผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง แต่ยังสามารถมั่นใจได้ในเรื่องของการบริการหลังการขาย และการสนับสนุนที่เป็นมืออาชีพด้วย สามารถติดต่อสอบถาม ข้อมูลเพิ่มเติมและสั่งซื้อได้ที่ www.se.com

ติดตามเรื่องราวดีๆ จาก ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ได้ที่

เว็บไซต์: www.se.com

Facebook: Schneider Electric

Instagram: schneiderelectric_th

LinkedIn: Schneider Electric

Lazada: Schneider Electric

Shopee: Schneider Electric official

LINE Official: ชไนเดอร์ อิเล็คทริค